10-อาชีพยอดฮิต

10 อาชีพยอดฮิต
“เปิดโผ….10 อาชีพฮอตฮิต เรียนแล้วไม่ตกงาน !” ดูสิค่ะว่ามีอาชีพอะไรบ้าง 1. การบัญชี – 19.71% 2. แพทยศาสตร์ – 18.75% 3. บริหารธุรกิจ – 12.02% 4. คอมพิวเตอร์ – 10.10% 5. วิศวกรรมศาสตร์ – 10.10% 6. การตลาด – 8.65% 7. นิติศาสตร์ – 8.17% 8. พยาบาลศาสตร์ – 4.81% 9. การจัดการ – 4.33% 10. รัฐศาสตร์ – 3.36% จะจบสาขาไหน วิชาอะไร อาชีพอะไรไม่สำคัญ ขอแค่เราทำอาชีพนั้นให้ดีที่สุดก็พอ

วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ เรื่อง รายงานผลการพัฒนาชุดการสอนคณิตศาสตร์ที่เน้นวิธีเรียนแบบกลุ่มช่วยเรียน รายบุคคล (Team Assisted Individualization หรือ TAI) เรื่อง สมการ และอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3


ชื่อเรื่อง                              รายงานผลการพัฒนาชุดการสอนคณิตศาสตร์ที่เน้นวิธีเรียนแบบกลุ่มช่วยเรียน
รายบุคคล  (Team Assisted Individualization  หรือ TAI)  เรื่อง  สมการ
และอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว  สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้ศึกษาค้นคว้า                   นางสาวออนอนงค์  ใจศิริ
ปีการศึกษา                         2554
                  การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้เป็นการพัฒนาชุดการสอนคณิตศาสตร์ที่เน้นวิธีเรียนแบบกลุ่มช่วยเรียนรายบุคคล  (Team Assisted Individualization  หรือ TAI)  เรื่อง  สมการและอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว  สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  มีจุดมุ่งหมาย  (1)  เพื่อสร้างและพัฒนาชุดการสอนคณิตศาสตร์
ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์  80/80  (2)  เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  ที่เรียนโดยใช้ชุดการสอนคณิตศาสตร์  ก่อนเรียน  (Pre-test)  และหลังเรียน 
(Post-test)  (3)  เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ที่มีต่อชุดการสอคณิตศาสตร์  กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่โรงเรียนนามนพิทยาคม  อำเภอนามน  จังหวัดกาฬสินธุ์  ภาคเรียนที่ 2  ปีการศึกษา  2554  จำนวน  32  คน  ใช้เวลาในการทดลองสอน  จำนวน  16  คาบ  คาบละ 50  นาที  เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าประกอบด้วย  1)  ชุดการสอนคณิตศาสตร์ที่เน้นวิธีเรียนแบบกลุ่มช่วยเรียนรายบุคคล  2)  แผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นวิธีเรียนแบบกลุ่มช่วยเรียนรายบุคคล
3)  แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์  ซึ่งเป็นแบบทดสอบปรนัย  ชนิด  4  ตัวเลือกจำนวน  40  ข้อ  ที่มีค่าความยากง่ายเท่ากับ  0.45-0.68  และอำนาจจำแนก  เป็น  0.27-0.72  
และมีค่าความเที่ยงเท่ากับ  .76  แบบวัดความพึงพอใจ  จำนวน  25  ข้อ  มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ตั้งแต่  0.35 
ถึง  0.70  มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ  0.91  สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล  ได้แก่  ค่าเฉลี่ย  ร้อยละ 
และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
                  ผลการศึกษาค้นคว้า  พบว่า  ผลการพัฒนาชุดการสอนคณิตศาสตร์ที่เน้นวิธีเรียนแบบ
กลุ่มช่วยเรียนรายบุคคล  (Team Assisted Individualization  หรือ TAI)  เรื่อง  สมการและอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว  สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์  80/80  ที่ระดับ    86.41/86.20
ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานที่ตั้งไว้  คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนเท่ากับ  16.50  และ  41.73  จากคะแนนเต็ม  50  คะแนน  คิดเป็นร้อยละ  33.00 
และ  83.45  คะแนนเฉลี่ยระหว่างเรียนทั้ง  8  ชุดการสอน  เท่ากับ  64.45  จากคะแนนเต็ม  80  คิดเป็น
ร้อยละ  80.56  ซึ่งมีคะแนนพัฒนาการทางการเรียนในระดับที่สูงขึ้นจากเดิม  อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ที่ระดับ  .05  ดัชนีประสิทธิผลของชุดการสอน  เท่ากับ  0.75  ซึ่งหมายความว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น
ร้อยละ  75  นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดการสอนอยู่ในระดับมากที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น